กิติพงษ์ แสนกาวี

ลาออกงานประจำ มุ่งมั่นตามฝันสู่เกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ

JOE 0733 Edit

“ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ หากเราตั้งใจจริง” ประโยคสร้างแรงบันดาลใจนี้ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน แต่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของ นายกิติพงษ์ แสนกาวี หรือ ต้อม เกษตรกรรุ่นใหม่วัย 38 ปี บุคคลต้นแบบของ อ.แม่เมาะ ที่มุ่งมั่นทำตามความชอบในการเลี้ยงสัตว์มากว่า 11 ปี จนสร้าง “กิติพงษ์ ฟาร์ม” ที่บ้านแม่เกี๋ยง ต.สบป้าด บนเนื้อที่กว่า 14 ไร่ได้สำเร็จเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน อ.แม่เมาะ และสร้างรายได้ตลอดปีเพื่อดูแลครอบครัว

ลาออกงานประจำ มุ่งมั่นสู่เส้นทางที่ชื่นชอบ

การยึดอาชีพเลี้ยงสัตว์ คุณต้อมอู้จ๋าว่า ไม่เหนื่อยอย่างที่หลายคนคิด ขอแค่มีใจรักและการจัดการที่ดี ก็สำเร็จได้ คุณต้อมก้าวสู่เส้นทางเกษตรกรหลังเรียนจบ ปวส. สาขาอิเล็กทรอนิกส์จากวิทยาลัยเทคนิคลำปาง โดยทำฟาร์มหมู 750 ตัว ระบบเกษตรพันธสัญญากับบริษัทซีพี 1 ปีควบคู่งานประจำที่บริษัทอิตาเลี่ยนไทย อีก 7 ปีต่อมาตัดสินใจลาออกมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว กู้เงินมาซื้อที่ดิน เปลี่ยนท้องทุ่งนาให้เป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์จากต้นแบบของประเทศเกาหลีที่ศึกษาดูคลิปต่างๆ ในยูทูป เริ่มจากซื้อวัวขุนตัวผู้ 60 ตัว มาเลี้ยงเพราะตลาดต้องการ และขายได้กำไรเยอะกว่าการเลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติ โดยทำเองทุกอย่างทั้งป้อนนม ให้อาหาร เป็นหมอฉีดยาจากความรู้ที่เคยเลี้ยงหมู และศึกษาจากโลกออนไลน์ แม้วัวขุนชุดแรกในชีวิตเหลือรอดแค่ 30 ตัว ก็ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เดินหน้าสู้ต่อไปเพราะมีความเชื่อ “ทุกปัญหามีทางออก แต่ต้องหาให้เจอ”

ผลิตอาหารเอง ลดต้นทุนเดือนละ 3 หมื่น บริหารฟาร์มสร้างรายได้ตลอดปี

คุณต้อมแก้ปัญหาโดยเพิ่มพูนความรู้จากโลกออนไลน์ ขอคำแนะนำจากปศุสัตว์จังหวัดลำปางและปศุสัตว์อำเภอแม่เมาะ รวมถึงเข้าร่วมอบรมความรู้ในโครงการต่างๆ ทั้งระดับอำเภอและจังหวัด พัฒนาศักยภาพตนเองทุกด้านจนรู้เทคนิคต่างๆ นำมาพัฒนาศักยภาพการเลี้ยง รวมถึงบริหารจัดการและวางแผนที่ดีโดยเลี้ยงสัตว์อื่นเพิ่ม อาทิ แพะ 40 ตัว หมูแม่พันธุ์ 4 ตัว วัวแม่พันธุ์ 20 ตัว ไก่ไข่ ไก่เนื้อ เป็ด จนสร้างรายได้ตลอดปีจากเงินรายวันที่แม่เก็บไข่และผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองจากงบสนับสนุนกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะไปขาย เงินก้อนทุก 4 เดือนจากการขายวัวขุนรุ่นละ 50 ตัว การขายขี้วัวตากแห้งเกือบ 20,000 บาท และเงินรายปีจากการขายแพะ นอกจากนี้ยังผลิตอาหารเองตามความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดมาลดต้นทุนในการขุนวัวได้เดือนละ 30,000 บาท โดยนำหญ้าหวานที่ปลูกเองในฟาร์มมาหมักด้วยวิธี TMR (Total mixed ration) กับอาหารข้นมาผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสมให้วัวกินแทนการเลี้ยงแบบเก่าที่นำอาหารหยาบ เช่น หญ้า ฟางข้าวมาปูให้วัวกินทั้งวันแล้วค่อยให้กินอาหารข้น การขุนวัวให้มีน้ำหนักตามมาตรฐาน 400 กว่ากิโลกรัมจนขายให้เขียงวัวได้นั้น คุณต้อมบอกว่า ต้องเลี้ยงในคอกเพื่อไม่ให้เดินมาก ให้กินอาหารเยอะๆ ทุกเช้าเย็นจะโตไว อ้วนเร็ว ไม่มีโรค

เรียนกฎหมายสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อชุมชน

ด้วยแนวคิดและทำ “กิติพงษ์ ฟาร์ม” ครบวงจรเป็นแห่งแรกใน ต.สบป้าด ทำให้ฟาร์มเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการต่างๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศและรางวัลชมเชย ประเภทเกษตรกรดีเด่น สาขาผู้เลี้ยงสัตว์จากระดับอำเภอไปสู่ระดับจังหวัด ล่าสุดได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2565 ด้านวัวขุน ทำให้ฟาร์มกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจสร้างอาชีพด้านการเกษตรและปศุสัตว์ นอกจากนี้คุณต้อมยังได้รับการสนับสนุนและโอกาสที่ดีจากการโหวตของสมาชิกฯ ให้เป็นประธานคนที่ 2 ของสหกรณ์การเกษตรและปศุสัตว์แม่เมาะ จำกัด เป็นเวลา 3 ปี

ด้วยแนวคิด ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อได้รับตำแหน่งคุณต้อมก็สมัครเรียนสาขารัฐศาสตร์ วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นำความรู้ด้านกฎหมายมาพัฒนาสหกรณ์ฯ โดยเขียนระเบียบของสหกรณ์ฯ ให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อนำงบสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะไปใช้อย่างถูกต้องสร้างกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี จากหลักพันสู่หลักหมื่นและนำมาปันผลให้กับสมาชิกฯ นอกจากนี้ยังเป็นวิทยากรเลี้ยงสัตว์ให้กับชุมชน อ.แม่เมาะ ให้คำแนะนำและช่วยเหลือสมาชิกฯ ในการเขียนโครงการกว่า 40 โครงการเพื่อส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนให้กับชาวบ้าน ทำให้มีสมาชิกสหกรณ์จากเดิม 100 กว่าคนเพิ่มขึ้นจนปัจจุบันมีสมาชิกทั้งคนรุ่นเก่าและใหม่กว่า 800 คน

คิดต่อยอดสร้างแบรนด์เพื่อลดค่าครองชีพชุมชน

แม้จะหมดวาระการเป็นประธานสหกรณ์ฯ แต่ด้วยองค์ความรู้ และผลงานที่ผ่านมา คุณต้อมได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 5 ที่ปรึกษาสหกรณ์ ร่วมกับนายอำเภอแม่เมาะ ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง เกษตรจังหวัดลำปาง และนายกเทศมนตรีตำบลแม่เมาะ คอยแนะนำ ส่งเสริม ให้ความช่วยเหลือสมาชิกฯ ตามเจตนารมณ์เดิมต่อไป สำหรับแผนพัฒนาเส้นทางอาชีพเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรใน อ.แม่เมาะ คือ ให้สามารถสร้างแบรนด์เนื้อหมูหรือเนื้อวัวเป็นของตัวเอง หรือทำโรงฆ่าสัตว์ได้เองเพื่อให้คนแม่เมาะได้กินเนื้อหมู เนื้อวัวในราคาถูก เนื่องจากไม่มีคนกลางเพราะขายให้กับสหกรณ์ อาชีพเลี้ยงสัตว์ก็จะมั่นคง ตลอดจนยกระดับให้เกษตรกรพัฒนาการเลี้ยงวัวเพื่อผลิตเป็นเนื้อพรีเมียมในอนาคตได้ คนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากเป็นเกษตรกร คุณต้อมฝากแง่คิดว่า “ความสำเร็จในแบบที่ทุกคนต้องการนั้นไม่ยาก ขอเพียงกล้าเปลี่ยนแปลง การเลี้ยงสัตว์หนึ่งต้องใจรัก สองมีความตั้งใจจริง การเลี้ยงวัวขุนกำไรจากการขายดีกว่าเลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติซึ่งหลายคนอาจมีความอยากแต่ไม่มีความกล้า หากกล้าออกนอกกรอบก็จะเห็นโลกกว้าง และประสบความสำเร็จได้”

จัดทำโดย : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย