สมบัติ ขุนพินิจ 14 ปี ในกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ ถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสบป้าด คนใหม่ สมบัติ ขุนพินิจ ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นคนบ้านห้วยรากไม้ ต.สบป้าด แต่เดิมประกอบอาชีพการเกษตร ทำไร่ทำสวน ต่อมาดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตั้งแต่ปี 2550-2564 นานกว่า 14 ปี ก่อนจะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสบป้าด และแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

กว่า 14 ปี กับบทบาทคณะกรรมการกองทุนฯ

หน้าที่หลักของคณะกรรมการกองทุนฯ คือการทำแผนยุทธศาสตร์ ส่งเสริมให้มีการสำรวจผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อเสนอโครงการชุมชน พิจารณาอนุมัติโครงการชุมชนที่ประชาชนได้เสนอขึ้นมาตามหลักเกณฑ์ ที่ กกพ.กำหนด และเรียงลำดับความสำคัญ เพื่อจัดทำเป็นแผนงานประจำปีเสนอ กกพ.พิจารณา ตลอดจนการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลโครงการ พร้อมรายงานผลต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รับทราบ ผลงานโดดเด่นที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการทุนการศึกษา และประเภททุนต่อเนื่อง โครงการห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom โครงการก่อสร้างอาคารตึกผู้ป่วยในหลังใหม่ โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ รพ.แม่เมาะ โครงการก่อสร้างหอประชุมจำป่าแดด สนับสนุนกิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลสบป้าด จ้างครูอัตราจ้าง และจ้างเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ฯลฯ

สะท้อนปัญหากองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ

โครงการเริ่มแรกของชุมชนค่อนข้างจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของสภาพพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ป่า การขาดองค์ความรู้ในการพัฒนาอาชีพเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน การขาดเรื่องของการตลาดที่รองรับสินค้าทางชุมชน ทำให้โครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมามักจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ และไม่ยั่งยืน เช่น การเลี้ยงสัตว์ การสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ทางการเกษตร เมื่อ กกพ. ตรวจติดตามประเมินผล เลยได้ปรับเปลี่ยนระเบียบฯ แนวทางการบริหารจัดการเรื่อยมาเพื่อให้เกิดความยั่งยืน สำหรับโครงการด้านปศุสัตว์ ก็ให้ดำเนินการในรูปแบบของสหกรณ์ การดำเนินการก่อสร้างสาธารณูปโภคก็ให้หน่วยงานราชการดำเนินการแทนชุมชน และในปัจจุบัน อบต.สบป้าด กำลังดำเนินการขออนุญาตพื้นที่ป่าให้เป็นพื้นที่ดำเนินการและทำกินชั่วคราว ทำระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทาง วางท่อระบบน้ำประปา เพื่อให้เงินกองทุนฯที่ได้รับเกิดโครงการใหญ่และเกิดความยั่งยืนต่อไป

ความท้าทายของตำบลสบป้าด

หนึ่งในปัญหาสำคัญคือเรื่องน้ำ ตอนนี้ได้เสนอโครงการสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งที่ลำห้วยไคร้ บนพื้นที่บ้านสบเมาะ อยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติงบประมาณกว่า 54 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าฯ เพื่อให้ชุมชนบ้านสบเมาะ แม่เกี๋ยง และห้วยรากไม้ ได้ใช้ทำการเกษตร ปลูกข้าว ข้าวโพด และทำไร่มันสำปะหลัง รวมไปถึงปัญหาน้ำเป็นหินปูนในหมู่บ้านฉลองราช อบต.สบป้าด และ กฟผ.แม่เมาะ ได้นำรถน้ำไปช่วยเหลือในช่วงหน้าแล้ง และมีแผนแก้ไขในระยะยาวด้วยการสูบน้ำใต้ดินจากแหล่งอื่นที่ไม่มีหินปูนในชั้นใต้ดิน อีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่เชื่อมโยงกับโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่คือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในตำบลสบป้าด ซึ่งมีผาหอบเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ และกำลังจะพัฒนาอ่างเก็บน้ำหนองมะแปบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจในอนาคต

โจทย์ที่ต้องรีบแก้

งานถนัดของนายกฯ สมบัติ คือการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน อย่างถนนหนทางและแหล่งน้ำ งานด่วนตอนนี้คือปรับปรุงถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ตั้งแต่ปากทางศาลาแก้วมาลาถึงองค์การบริหารส่วนตำบลสบป้าด แทนของเดิมซึ่งเป็นถนนลาดยางซึ่งชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ นอกจากนี้ยังมีนโยบายเร่งด่วนด้านการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ ทำระบบเหมืองฝาย สร้างแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค และทำระบบน้ำประปาในหมู่บ้าน เพื่อส่งเสริมแหล่งน้ำทางการเกษตร

สิ่งที่อยากได้จาก กฟผ.แม่เมาะ

เรามีเงิน แต่เราไม่มีองค์ความรู้ เราจึงยินดีให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้ กฟผ.แม่เมาะ นำนักวิชาการลงพื้นที่ประเมินศักยภาพว่าแต่ละหมู่บ้านมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร และให้ความรู้แก่ชุมชนในการประกอบอาชีพ เพราะทุกวันนี้มีงบประมาณ แต่ชาวบ้านกลับไม่มีอาชีพที่ยั่งยืน อบต.สบป้าด ยินดีเข้าไปบูรณาการร่วมมือกัน พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ กฟผ.แม่เมาะ ในการพัฒนาอาชีพ เพื่อให้ชุมชนได้มีงานทำ

เน้นสร้างการมีส่วนร่วม ใส่ใจพัฒนาอย่างทั่วถึง

นายกฯสมบัติ เน้นให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนโครงการเพื่อพัฒนาตำบลให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของชุมชน ตนพบปะและลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ให้ความสนิทสนมกับผู้นำท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกคน สามารถอู้จ๋าปัญหาอุปสรรคได้ทุกเรื่อง เมื่อถึงคราวต้องประสานงานหรือร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี คติในการทำงานนั้น สิ่งสำคัญคือไม่สร้างความขัดแย้ง เน้นปรับความเข้าใจและคลายข้อพิพาทระหว่างฝ่ายต่างๆ ทำงานร่วมกันนั้นย่อมเกิดความผิดใจกันได้เป็นธรรมดา ตนจึงเน้นสร้างความเชื่อมโยงและประสานทุกคนให้เข้าใจซึ่งกันและกัน