เชิงชาย ใจคำลือ (ธีร์)

ผู้ใหญ่บ้านรุ่นใหม่วัย 38 ปี กลับคืนถิ่นเพื่อพัฒนาบ้านเกิด 

“ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ดูแลคนในหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ผู้นำที่ดีต้องลงมือทำเป็นแบบอย่าง สมัครได้แล้วใช้แต่ผู้ช่วยฯ จะเข้ามาทำไม ผมเน้นทำงานด้วยตัวเองเป็นหลัก ทำเต็มที่กับทุกเรื่องเพื่อพัฒนาตนเองและชุมชน ก้าวหน้าไปด้วยกันให้สมกับความไว้วางใจที่ชาวบ้านมอบโอกาสให้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่สองของหมู่บ้าน”

ประโยคนี้เสมือนดั่งคำสัญญาที่แสดงถึงวิสัยทัศน์กว้างไกลของ “ผู้ใหญ่ธีร์” แห่งบ้านนาแขมพัฒนา หมู่ที่ 11 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่มีความโดดเด่นด้านความเป็นผู้นำและความตั้งใจทำเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปี 2558 หลังลาออกจากงานที่ กทม. และกลับมาอยู่ อ.แม่เมาะ

คนในชุมชนมาถึงหน้าบ้าน ขอให้ลงเลือกตั้ง

ด้วยความขยันและทุ่มเทช่วยพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งทั้งลงแรงช่วยขนของ ใส่ซองร่วมงานบุญประเพณีต่างๆ ยามว่างเว้นจากช่วยแม่ขายหมูสดในตลาด ทำให้เป็นขวัญใจของชุมชนจนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านคนเดิมหมดวาระ ชาวบ้านกว่า 30 คน ทยอยมาหาถึงบ้านตลอดทั้งวัน บอกอยากให้ลงเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนต่อไป เพราะเห็นความมุ่งมั่นทำเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี เมื่อชาวบ้านเชียร์และสนับสนุน อีกทั้งมีใจรักอยากทำเพื่อสังคมที่ซึมซับจากการที่พ่อเป็นสมาชิกสุขาภิบาล (การปกครองท้องถิ่นรูปแบบหนึ่งในสมัยก่อน) จ.กาญจนบุรี ทำให้รับรู้ถึงการทำงานของผู้นำท้องถิ่นในการเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาชุมชนให้อยู่ดีมีสุขขึ้นจึงสมัครและออกแบบแผ่นพับหาเสียงด้วยตัวเองเพื่อความประหยัด นำไปให้ชาวบ้านขณะลงพื้นที่แนะนำตัว บ้านที่ไปแล้วไม่เจอใครก็เสียบไว้ และในวันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนน 247 เสียง จากทั้งหมด 539 เสียง โดยไม่มีการซื้อเสียง ใช้งบพิมพ์แผ่นพับไม่ถึง 2,000 บาทเท่านั้น

ก้าวหน้าไปด้วยกันกับผู้นำรุ่นใหม่

ผู้ใหญ่ธีร์ ดีกรีปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง อู้จ๋าว่า ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนแรกที่ชาวบ้านคิดถึงยามเดือดร้อน ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง แบกรับภาระ ทุกข์สุขของประชาชน และการบริหารงานต่างๆ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องพบเจอ สิ่งที่ผู้นำต้องมีควบคู่กันคือ ความเสียสละ และความรู้ความสามารถที่จะนำพาชาวบ้านและชุมชนไปสู่ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยล่าสุดผู้ใหญ่ธีร์กำลังเรียนปริญญาตรีหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต วิชาเอกการบริหารการปกครองท้องที่ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ลำปาง นำความรู้จากการเรียนและการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้นำท้องถิ่นทั้ง จ. ลำปางที่เรียนร่วมห้องมาประยุกต์ใช้ปรับภูมิทัศน์บริเวณท้ายหมู่บ้านให้เป็นที่สาธารณะสำหรับคนในชุมชนที่ไม่มีพื้นที่ทำกินมาทำการเกษตร โดยทำสัญญาร่วมกันเพื่อป้องกันการซื้อขายที่ดินแห่งนี้ในอนาคต หากไม่ทำการเกษตรต้องคืนสิทธิ์ให้หมู่บ้านเพื่อให้คนต่อไปทำแทน

ผู้ใหญ่รุ่นใหม่ ไม่หวงงบ

ผู้นำที่ดีผู้ใหญ่ธีร์อู้จ๋าว่าต้องมีวาทศิลป์ในการพูดตามหลักคิดและเหตุผลเพื่อให้ชุมชนเข้าใจและเข้าถึงแนวทางการช่วยเหลือ สำหรับแนวคิดในการทำงานของผู้ใหญ่ธีร์คือ ดูแลทุกคนเสมือนคนในครอบครัวและทำงานแบบกล้าได้กล้าเสียเพื่อประโยชน์ของลูกบ้าน หากลูกบ้านเดือดร้อนอะไรสามารถแจ้งเรื่องราว ขอความช่วยเหลือ พูดคุยกันได้อย่างเต็มที่ทั้งทางโทรศัพท์หรือไลน์เพื่อให้ลูกบ้านมีความเป็นอยู่ดีขึ้นตามสโลแกน “ถึงป้อหลวงบ่อิ่ม แต่ลูกบ้านต้องอิ่ม” นั่นคือความภาคภูมิใจที่สุด ในฐานะผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้านำสิ่งใหม่ๆ มาต่อยอดพัฒนาชุมชนให้เข็มแข็งต่อไป รวมทั้งมุ่งมั่นสร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีในชุมชน ให้ตระหนักรู้ถึงคุณค่า ส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของหมู่บ้านนาแขมให้อยู่คู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ดังเช่นงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุเจดีย์มณีนาแขม และเปิดเนตรพระเจ้าทันใจที่ปั้นสำเร็จภายใน 1 วัน พร้อมทั้งพระพุทธรูป 63 พระองค์ เมื่อวันที่ 23 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 ชาวบ้านพร้อมใจมาร่วมเดินขบวนแห่เครื่องสักการะ ผ้าห่มพระธาตุอย่างเนืองแน่นจนได้รับการชื่นชมและกล่าวถึงทั้ง อ.แม่เมาะในความสวยงามตระการตาของขบวนแห่ รวมถึงกิจกรรมและพิธีต่างๆ ภายในงานที่จัดได้ยิ่งใหญ่สมเกียรติจนถึงเพลพระ 50 กว่ารูปในงานวันสุดท้าย (ถวายเป็นโต๊ะจีน) ด้วยงบจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าแม่เมาะจำนวน 1 แสนบาท และงบส่วนตัวของผู้ใหญ่ธีร์

ผู้ใหญ่บ้านตัวจริงคือ “แม่”

งบส่วนตัวที่ผู้ใหญ่ธีร์นำมาใช้เพื่อชุมชนบ้านนาแขมพัฒนา 400 หลังคาเรือนมากว่า 3 ปี มาจากค่าตอบแทนประจำตำแหน่ง 10,400 บาท และธุรกิจถุงขยะดำของครอบครัวที่ กทม. รวมทั้งการสนับสนุนจากคุณแม่สมจิต เจียมประเสริฐ อายุ 67 ปี ที่อยากคืนกำไรเป็นความสุขให้กับชุมชน อ.แม่เมาะ ที่เปลี่ยนครอบครัวผู้ใหญ่ธีร์จากล้มละลายเพราะพิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง มีหนี้กว่า 5 แสน ย้ายครอบครัวมาอยู่ อ.แม่เมาะ และค้าขายหมูสดตั้งแต่ปี 2540 จนปลดหนี้และมีชีวิตที่ดีจนถึงปัจจุบัน